จัดงานแถลงข่าวการแสดงลิเกเฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง “ลิขิตรัก” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา   

            จัดงานแถลงข่าวการแสดงลิเกเฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง “ลิขิตรัก” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา

                 วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง จัดงานแถลงข่าวการแสดงลิเกเฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง “ลิขิตรัก” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และครบรอบ 92 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง โดยมีศิลปินลิเกดาวรุ่ง และศิลปิน มากฝีมือมาร่วมงานพร้อมหน้า บรรยากาศงานเริ่มต้นด้วย พิธีกร โกมุท คงเทศ นำเข้าสู่งานแถลงข่าวร่วมพูดคุยกับ อ.พงษ์ศักดิ์ สวนศรี ผู้กำกับการแสดง บอกเล่าความพิเศษของลิเกเรื่อง “ลิขิตรัก” ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักระหว่างชายและหญิงที่หลงทาง ด้วยอนุภาคของความดีและความซื่อสัตย์ จึงย้อนกลับมาหากันด้วยความรักและได้กลับมาครองคู่ กันดังใจปรารถนา หนึ่งในไฮไลต์ของงานแถลงข่าวจัดแสดง 2 ฉากใหญ่ ให้สื่อมวลชนได้รับชม เริ่มต้นด้วยฉากแรก  “ท้องพระโรงเมืองพุกาม” ต่อด้วยฉาก “อุทยานเมืองน่าน” โดยเป็นการรวมตัวของสี่คู่พระนาง ผ่านบทบาทของเรื่องราวความรัก และท่วงท่าร่ายรำที่อ่อนช้อยงดงาม ได้แก่ ต้อม นิรันดร์ - ซาย ภิสา สวนศรี (The Golden Song), 
นีโน่ สุดที่รัก - แป้ง วนารี, ทองหยอด ลูกนารายณ์ – ตวงรัก ฐิติยา, คู่พระ – นาง The Golden Song  :  บิ๊ก จักริน  - พลอย อิสรีย์ภัค 
                สำหรับวันแสดงจริงยังมีนักแสดง นำโดยพระเอกลิเกโรงใหญ่ อ.พงษ์ศักดิ์ สวนศรี - เทพบัญชา หอมหวล ทายาทรุ่นที่ 2 ของอาจารย์หอมหวล รวมดาวดังพระเอกลิเกรุ่นใหม่ แน็กกี้ ธเนศพิพัฒ พระเอกจากคณะสองเทพบุตรสุดที่รัก โตโต้ ธนเดช (The Golden Song)  ม้ามืดวงการลิเก ร่วมด้วยนักแสดงลิเกมากฝีมือ บลู รุ้งจรัส, ผาภูมิ มาลัยนาค, พงษ์พร พ่วงเพชร, หลุยส์ ชวนชื่น, โตโต้ แดนซ์, โดนัท สุดที่รัก, จันทรา ดาราทิพย์, เจ้าขา มาลัยนาค ฯลฯ บรรเลงโดย วงดนตรีปี่พาทย์พิกุลทอง และวงเฉลิมราชย์ ร่วมด้วย คณะนักแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง กำกับการแสดงโดย อ.พงษ์ศักดิ์ สวนศรี – ไพรัช สวนศรี “ลิขิตรัก” การแสดงลิเกโรงใหญ่ ที่นำเค้าโครงเรื่องของลิเกยุคกลางเรื่องราวของความรัก ความเสียสละ ความสามัคคี และกฎระเบียบของผู้นำในยุคสมัยก่อน สอดแทรกการแสดงตลกหลวง เพื่อเพิ่มความขบขันบันเทิงให้เหมาะสมกับท้องเรื่อง กล่าวถึงเมือง 3 เมือง เมืองที่ 1 เมืองน่าน มีพระราชธิดางามถึง 3 พระองค์ เป็นที่หมายตา ผู้นำของ 2 เมือง ได้แก่ เมืองพุกาม ซึ่งมีผู้นำเป็นบุรุษผู้รักกฎระเบียบ มีสี่ขุนพลคู่ใจ แต่ทุกคนยังไร้คู่ และอีกเมืองคือเมือง ฉัตรทวาย มีผู้นำที่ใฝ่ด้วยสงครามและโหยหาความรัก สร้างสงครามขึ้นเพื่อจะได้ความรักจาก 3 พระธิดามาครอบครอง  แต่กลับต้องผิดหวัง เมื่อเมืองพุกามและเมืองน่าน 2 เมือง รวบรวมผนึกกำลังดั่งเป็นสุวรรณปฐพีเดียวกัน ต่อสู่กันจนได้ชัยชนะรอดพ้นจากสงคราม เรื่องราวความรักจะถูก “ลิขิตรัก” ให้เป็นอย่างไร สัมผัสอรรถรสในมนต์เสน่ห์ลิเกไทยได้ ที่เวทีโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง 
 

          ร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอดด้านศิลปวัฒนธรรมไทย ผ่านศิลปะการแสดงพื้นบ้าน “ลิเก” เวทีที่ไม่เคยหลับใหล จากมหรสพพื้นบ้าน...สู่มรดกทางวัฒนธรรมไทยที่เติบโตไปกับยุคสมัย รวมตัวพระเอกนางเอกลิเกรุ่นใหม่สืบทอดการแสดงพื้นบ้าน “ลิเก” ถ่ายทอดเรื่องราวของสามนครใหญ่ว่าด้วยเรื่อง ความรัก ความเสียสละและความสามัคคี เรื่อง “ลิขิตรัก” ในวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2568 รอบ 13.00 น. ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง  บัตรราคา 1,200 บาท ทุกที่นั่ง จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่ศาลาเฉลิมกรุง โทร. 0-2225-8757-8 และไทยทิคเก็ตเมเจอร์ www.thaiticketmajor.com