ศูนย์ฝนหลวงชะอำ : สืบสานพระราชปณิธาน เพิ่มน้ำ เพิ่มคุณภาพชีวิต
ศูนย์ฝนหลวงชะอำ : สืบสานพระราชปณิธาน เพิ่มน้ำ เพิ่มคุณภาพชีวิต ภัยแล้งนับเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริคิดค้นและพัฒนา "โครงการฝนหลวง" ขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะขาดแคลนน้ำ และนับเป็นต้นแบบแห่งนวัตกรรมเพื่อปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง
วันที่ 5 ส.ค. 2568 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสานและต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์อย่างต่อเนื่อง โดยการจัดตั้ง ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามตำราฝนหลวงพระราชทาน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจฝนหลวงให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงอาคารสถานที่ แต่คือแหล่งเรียนรู้และศูนย์รวมแห่งองค์ความรู้ด้านฝนหลวงแบบครบวงจร บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่อประเทศชาติและประชาชน
ส่วนที่ 1 พิพิธภัณฑ์พระบิดาแห่งฝนหลวง : แหล่งเรียนรู้ทันสมัยเพื่อทุกคน
หัวใจหลักของศูนย์ฯ คือ พิพิธภัณฑ์พระบิดาแห่งฝนหลวง เป็นอาคารสูง 3 ชั้น พร้อมชั้นลอยโดมแก้วที่เปิดมุมมอง 360 องศา เตรียมพร้อมต้อนรับผู้เข้าชมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรภาครัฐ นักเรียน นักศึกษา หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจ
ภายในพิพิธภัณฑ์ แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 10 โซน ที่จะพาเราเปิดโลกแห่งฝนหลวงอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่
ความเป็นมา : จุดเริ่มต้นของโครงการพระราชดำริฝนหลวง
เทคนิคการทำฝนตามตำราฝนหลวงพระราชทาน : เจาะลึกกระบวนการและวิธีการปฏิบัติการ
ฝนหลวงที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
องค์ประกอบการปฏิบัติการฝนหลวง : ทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำ
ฝนหลวงให้ประสบความสำเร็จ
ตำราฝนหลวงพระราชทาน : เรียนรู้ถึงหลักการและทฤษฎีที่ใช้ในการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประดิษฐ์ภาพด้วยพระองค์เอง
การบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ: สัมผัสแนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบองค์รวม ที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ
การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างน่าสนใจและเข้าใจง่าย ทำให้ทุกคนได้ซึมซับถึงพระอัจฉริยภาพและพระวิริยอุตสาหะของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง และเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนที่ 2 ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการดัดแปรสภาพอากาศฯ : ยกระดับบุคลากรฝนหลวงไทย ศูนย์ฯ แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางในการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้มีความรู้ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างมืออาชีพ ด้วยการเรียนรู้จากตำราฝนหลวงพระราชทานโดยตรง ทำให้บุคลากรเหล่านี้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งในทุกภูมิภาคอย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ยังสนองพระราชดำริในการถ่ายทอดเทคโนโลยีฝนหลวงให้กับประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งและภัยพิบัติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่แผ่ไพศาลไปสู่มิตรประเทศ เป็นการสร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้กับประเทศไทยในเวทีโลก
ส่วนที่ 3 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน : เพิ่มน้ำให้พื้นที่เกษตรและเขื่อน การก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่การเกษตร ป่าไม้ และเขื่อนเก็บกักน้ำ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นซ้ำซากในภูมิภาคนี้ได้อย่างยั่งยืน ทำให้เกษตรกรมีน้ำเพียงพอสำหรับการเพาะปลูก และประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคอย่างพอเพียง อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการคือ โรงผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) แห่งแรกในประเทศไทย ณ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสารฝนหลวง ทำให้การปฏิบัติการฝนหลวงมีความคล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามตำราฝนหลวงพระราชทาน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จึงเป็นมากกว่าแค่ศูนย์ราชการ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นต้นแบบแห่งการให้ และพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงสืบสานพระราชปณิธานด้วยพระวิริยอุตสาหะ เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้มีน้ำใช้ มีชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นการยืนยันว่า "ฝนหลวง" คือมรดกอันล้ำค่าที่พ่อมอบให้ลูก และลูกจะสืบสานต่อไป เพื่อความสุขและความยั่งยืนของแผ่นดินไทยอย่างแท้จริง
--------------------------------
ที่มา : กรมฝนหลวงและการบินเกษตร