สธ. ปฎิบัติการลดอัตราป่วย-เสียชีวิตของประชาชนดึงภาคีเครือข่ายร่วมป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ  

             สธ. ปฎิบัติการลดอัตราป่วย-เสียชีวิตของประชาชนดึงภาคีเครือข่ายร่วมป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ระดมภาคีเครือข่ายในพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เน้น 5 ภารกิจสำคัญ สร้างระบบการป้องกันควบคุมโรคที่เข้มแข็ง และการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอัตราป่วยและเสียชีวิตของประชาชน พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่หน่วยงานที่สนับสนุนและมีผลงานดีเด่นด้านการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก

            วันนี้ 6 พฤศจิกายน 2568 ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมด้วย นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ ด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพร่วมกับภาคีเครือข่ายสู่ความยั่งยืน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569  โดยมี นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร่วมงาน พร้อมทั้งมีพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ จังหวัดเพชรบูรณ์  ที่สนับสนุนการดำเนินงานป้องกัน ควบคุมโรคไข้เลือดออก ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นอย่างดียิ่ง และอีก 4 หน่วยงาน ที่มีผลการดำเนินงาน Good Practice ด้านนวัตกรรม ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา

             นายพัฒนากล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงทางสุขภาพและประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพของประชาชน โดยขับเคลื่อนนโยบายผ่านโครงการและมาตรการต่าง ๆ ทั้ง 30 บาทรักษาทุกที่ ฟอกไตฟรีทุกแห่ง, การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ, การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในระบบบริการสุขภาพ เช่น Super App ปัญญาประดิษฐ์, การผลักดันระบบเศรษฐกิจสุขภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้มีระบบการป้องกันควบคุมโรคที่เข้มแข็งและการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

           นายพัฒนา กล่าวต่อว่า การป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของการพัฒนาประเทศ ทำให้ประชาชนทุกช่วงวัยเข้าถึงระบบสาธารณสุข ทั้งยังช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชาชนได้ โดยกรมควบคุมโรคได้เร่งรัดขับเคลื่อน 5 ภารกิจสำคัญ ในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพเชิงรุก ได้แก่ 1) ผลักดันวัคซีนใหม่เข้าสู่สิทธิประโยชน์เป็นวัคซีนฟรี เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม อาทิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อนิวโมคอคคัส (PCV) 2) ส่งเสริมการท่องเที่ยวปลอดโรคปลอดภัย เป้าหมายใน 30 จังหวัด ที่พื้นที่ท่องเที่ยวมีศักยภาพด้านการจัดการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย ไม่เสี่ยงโรค 3) ลดการเสียชีวิต และบาดเจ็บทางถนน โดยตรวจประเมินสมรรถนะทางสุขภาพผู้ขับขี่ 25,000 คน ภายในปี 2569 เป้าหมายในผู้ขับขี่รถสาธารณะ เป็นกลุ่มแรก และกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป และขับเคลื่อน Car Seat Bank ธนาคารที่นั่งนิรภัยเด็กในโรงพยาบาล ให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด เป้าหมาย 100 โรงพยาบาล 100 ธนาคารที่นั่งนิรภัยเด็ก 1,000 ที่นั่งนิรภัยเด็ก 4) คุ้มครองเด็กและเยาวชนจากพิษภัยบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า เป้าหมายในสถานศึกษา สถานที่ท่องเที่ยว และพื้นที่ที่เด็กและเยาวชนเข้าถึง และ 5) ควบคุมป้องกันวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้สัมผัสร่วมบ้าน/ ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรค ผู้ต้องขัง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่อาศัยในชุมชนแออัด ประชากรข้ามชาติ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคีเครือข่าย เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืน