ราชเลขาฯตามงานพัฒนาบึง ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาพื้นที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
ราชเลขาฯตามงานพัฒนาบึง ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาพื้นที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ พร้อมด้วย นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พันเอกอภิเดช ผลทวี รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครสวรรค์ พันตำรวจเอกโกมินทร์ สิงห์ขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมตั้งแถวให้การต้อนรับพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะฯ ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาพื้นที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
โดยมีนางสาวชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พลตรีประสิษฐิพงศ์ มูลดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 31 พลตำรวจตรีนเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ไปรับที่สนามบินเกษตรและนำเข้าพื้นที่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมสรุปภาพรวมแนวทางการบริหารจัดการน้ำพื้นที่บึงบอระเพ็ด ณ บริเวณสันฝายดินเดิมบึงบอระเพ็ด ต่อมาพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมคณะฯ เดินทางไปยังจุดชมวิวบ้านรางจิก หมู่ที่ 1 ตำบลพระนอน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตรวจติดตามการก่อสร้างเส้นทางจักรยาน พร้อมการปรับวิถีการเกษตรในพื้นที่ชุ่มน้ำบึงบอระเพ็ดให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการใช้น้ำ และร่วมกันทำกิจกรรมรดน้ำต้นไม้บำรุงรักษา บนแปลงเนินดินบ้านรางจิก
ในการลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บึงบอระเพ็ดและการก่อสร้างประตูบริหารจัดการน้ำ โดยข้อมูลบึงบอระเพ็ดมีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ ถือเป็นบึงน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเขตห้ามล่าสัตวป่าบึงบอระเพ็ดมีเนื้อที่ประมาณ 66,250 ไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ติดต่อ 3 อำเภอ 9 ตำบล โดยบริเวณสันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด ในช่วงอุทกภัย ทำให้สันฝายมีน้ำล้นสันฝายขาดออกไม่สามาราถกักเก็บน้ำไว้ได้ จึงจัดตั้งโครงการปรับปรุงทำนบดินเหนือฝายบางปองพร้อมอาคารประกอบ พร้อมทั้งหาพื้นที่ขุดแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำ เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำในใช้ไม่ต้องพึ่งน้ำในบึงบอระเพ็ด อีกทั้งยังนำดินจากการขุดแก้มลิงมาสร้างถนน และเลนจักรยาน รอบพื้นที่บึงเพื่อสร้างแนวเขตและป้องกันการบุกรุกอย่างยั่งยืน อีกทั้งโครงการปรับวิถีการเกษตรในพื้นที่ชุ่มน้ำบึงบอระเพ็ดให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยให้ตำบลโดยรอบทำนาเปียกสลับแห้ง และการทำปุ๋ยจากวัชพืชน้ำ โดยมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบึงบอระเพ็ดโลว์คาร์บอนวังมหากร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบึงบอระเพ็ดโลว์คาร์บอนพระนอน
////
ชาติชาย เกียรติพิริยะ/นครสวรรค์